1.ลูกบิดประตู
เป็นสิ่งแรกที่เราต้องสัมผัสเมื่อต้องเปิดประตู และเพราะเป็นจุดที่คนในบ้านต้องสัมผัสวันละหลายๆครั้ง จึงเป็นช่องทางที่เชื้อสามารถแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มักจะถูกมองข้ามเวลาทำความสะอาดจนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งภายในบ้านอีกด้วย
วิธีการทำความสะอาด : เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
2.สวิตช์ไฟ
จากผลการวิจัยพบว่าบนสวิตช์ไฟโดยเฉพาะสวิตช์ไฟห้องน้ำมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงมากถึง 217 ตัวต่อตารางนิ้ว สวิตซ์ไฟเป็นอีกจุดที่เรามักจะสัมผัสหลายๆครั้งโดยไม่เคยทำความสะอาด และมันก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดในบ้านที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามากมาย เชื้อโรคที่อยู่บนสวิตซ์ไฟสามารถแพร่ไปสู่ทุกคนภายในบ้านได้เพียงเสี้ยววินาที ดังนั้น จุดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้ามเวลาทำความสะอาดเด็ดขาด
วิธีการทำความสะอาด : ฉีดแอลกอฮอล์ลงบนผ้า แล้วนำไปเช็ดที่สวิตช์ไฟก่อนจะนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกรอบ
3.ก๊อกน้ำ
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทุกคนในบ้านใช้งานทุกวัน และนั้นก็ทำให้ก๊อกน้ำกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย นอกจากนี้มักเกิดคราบสกปรกจนไม่น่ามองได้ง่ายอีกด้วย
วิธีการทำความสะอาด : เช็ดด้วยน้ำสบู่แล้วล้างออก หรืออาจขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะนาวเพื่อความเงางาม
4.ม่านห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มีอากาศอบอ้าว มีความชื้นสูง และนั้นทำให้ม่านที่แขวนอยู่ในนั้นมีโอกาสเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย อันนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมาย แม้เชื้อราส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ก็อาจทำให้เกิดความรำคาญใจและอาการป่วยเรื้อรังได้ นอกจากนี้ยังทำให้ห้องน้ำดูสกปรกไม่น่ามองอีกด้วย
วิธีการทำความสะอาด
– ผ้าม่านที่เป็นผ้า สามารถถอดซักและนำมาตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้เลย
– ผ้าม่านพลาสติก กำจัดบริเวณที่เป็นเชื้อราด้วยเบกกิ้งโซดา แล้วนำไปซักรวมกับผ้าขนหนูเก่าๆโดยใส่น้ำส้มสายชูแทนผงซักฟอก เมื่อซักเสร็จแล้วนไปตากแดดโดยไม่ต้องปั่นแห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค
5. ชักโครก
ชักโครกเป็นจุดที่ใช้รองรับของเสียจากร่างกาย จึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ดังนั้น การรักษาความสะอาดของห้องน้ำโดยเฉพาะชักโครกจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก แจ็ค กิลเบิร์ต นักจุลชีววิทยา จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติอิลลินอยด์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ห้องน้ำที่สภาพแวดล้อมเย็น แห้งและสะอาดจะทำให้แบคทีเรียส่วนใหญ่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ผิดกับห้องน้ำที่มีอากาศชื้น อุ่น และสกปรกจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีและมีชีวิตได้นานกว่า
เชื้อโรคที่มาจากชักโครกมีอยู่หลายชนิด และส่วนใหญ่มักจะเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ เช่น เชื้ออีโคไล (Escherichia coli) ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น เพื่อความปลอดภัย นอกจากจะทำความสะอาดโถชักโครกแล้ว ฝาชักโครก ที่รองนั่ง และปุ่มกดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน เพราะเวลากดน้ำหรือราดน้ำ น้ำจากโถอาจกระเด็นมาโดนจนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เช่นเดียวกัน
วิธีการทำความสะอาด : ใช้น้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ขัดทำความสะอาด สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
6.เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะเตียงและโซฟาเป็นแหล่งสะสมคราบเหงื่อไคลที่หลาย ๆ คนอาจคาดไม่ถึง คราบเหงื่อไคลพวกนี้เมื่อสะสมนานวันเข้าก็จะหมักหมมจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคที่ยากต่อการทำความสะอาด โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีซอกหลืบทำให้ยากจ่อการเข้าถึง ดังนั้น ควรหมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ
วิธีการทำความสะอาด : ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
แม้การทำความสะอาดตามจุดใหญ่ ๆ จะช่วยให้บ้านดูสะอาดเรียบร้อย แต่ในความเป็นจริงยังมีจุดเล็ก ๆ ที่ถูกมองข้ามจนเกิดเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกจนนำไปสู่อาการเจ็บป่วยได้อีกหลายจุด
ดังนั้น การทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันทุกซอกทุกมุมจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของทุกคนภายในบ้านนั้นเอง