บ้าน ไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้างที่ใช้หลบแดดหลบฝน แต่ควรเป็นสถานที่ที่เราจะสามารถผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังการทำงานมาทั้งวันได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะบ้านที่สะอาดเป็นระเบียบที่ช่วยให้เรารู้สึกสบายกายสบายใจได้เป็นพิเศษ ตรงกันข้ามกับบ้านที่สกปรกรกรุงรังที่จะยิ่งทำให้ความเหน็ดเหนื่อยเพิ่มทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เห็น ดังนั้น เราจึงควรดูแลรักษาสภาพบ้านให้ดูดีและสะอาดสะอ้านอยู่เสมอ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านดูไม่เก่าแล้ว ยังช่วยให้คนที่อาศัยมีความสุขขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงานจนไม่มีเวลาดูแลบ้านล่ะ? วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดูแลบ้านดีๆ ฉบับคนมีเวลาน้อย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.ทำงานง่ายๆในทันที
อย่ามองข้ามงานง่ายๆที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย เช่น การล้างจาน เพราะการล้างจานทีละใบสองใบย่อมดีกว่าการล้างจานที่กองสุมกันมานานหลายวัน หรือแม้แต่การซักผ้า ที่หากเราซักผ้าในปริมาณน้อยๆ จะทำให้เรารู้สึกไม่หนักเกินไปเมื่อเทียบกับการสะสมผ้าไว้ในปริมาณมากแล้วค่อยซักในทีเดียว นี้เป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง เพราะการเห็นกองจานหรือกองผ้าที่สุมกันในปริมาณมากมักจะทำให้เรารู้สึกหมดพลังและเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะทำงาน ดังนั้น เราจึงควรทำงานเล็กๆน้อยๆในทันทีเพื่อลดปริมาณงานลง เช่น การล้างจานทันทีหลังทานข้าวเสร็จแทนที่จะเอาไปแช่ทิ้งไว้จนสะสมเป็นกองจานที่ยังไม่ได้ล้าง เป็นต้น
2.ทำความสะอาดวันละน้อย
การทำความสะอาดสามารถแบ่งทำทีละน้อยได้ ยิ่งหากคุณเป็นคนที่ต้องทำงานนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ การทำความสะอาดโดยลงแรงทั้งหมดในวันเดียวคงจะกินทั้งเวลาและพลังงานชีวิตเป็นแน่ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการแบ่งเวลาและพื้นที่ในการทำความสะอาด โดยคุณอาจจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวันเพื่อทำความสะอาดในแต่ละพื้นที่ที่คุณแบ่งเอาไว้ เช่น วันจันทร์ทำความสะอาดห้องครัว วันอังคารห้องรับแขก วันพุธห้องน้ำ สลับวันแบบนี้เพื่อทำไปทีละห้องของแต่ละสัปดาห์ การทำให้พื้นที่บ้านสะอาดอยู่เสมอจะช่วยให้เราผ่อนแรงในการปัดกวาดเช็ดถูจนเวลาที่ใช้ในห้องนั้นอาจจะลดลงจนไม่ถึง 30 นาทีเมื่อเวลาผ่านไป
3.อย่าปล่อยให้ขยะล้น
ขยะที่หมักหมมเป็นเวลานานจะนำมาซึ่งเชื้อโรค กลิ่นเน่าเหม็น และแมลงต่างๆ โดยเฉพาะขยะเปียกที่ควรกำจัดทิ้งในทันที ส่วนขยะแห้งหากเริ่มล้นแล้วก็ควรมัดปากถุงและนำไปทิ้งเช่นกัน ควรคลุมถุงขยะในถังทุกครั้งเพื่อความรวดเร็วต่อการทำความสะอาด แค่ลดปริมาณขยะลง บ้านของคุณก็ดูโบ้งและสอาดขึ้นมาได้แน่นอน
4.จัดหมวดหมู่สิ่งของ
พยายามจัดวางสิ่งของให้เป็นที่เป็นทาง ไม่วางเกะกะทั่วบ้าน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือการจัดวางสิ่งของตามหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนแรงในการทำความสะอาด เพราะไม่ต้องเปลืองแรงในการเก็บของเยอะๆ ในภายหลังแล้ว ยังช่วยให้เราหาของที่ต้องการใช้ได้ง่ายขึ้น โดยอาจจะมีการใช้กล่องเข้ามาช่วยในการจำแนกสิ่งของออกเป็นหมวดๆ เช่น กล่องสำหรับใส่บิลค่าใช้จ่าย กล่องใส่กรรไกร กล่องใส่อุปกรณ์ตัดเย็บ เป็นต้น
5. แยกโซนห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นหนึ่งในห้องที่ต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นห้องที่เราต้องใช้เป็นประจำทุกวันแล้ว ยังเป็นห้องที่มักจะเกิดเชื้อราและสิ่งสกปรกอันเนื่องมาจากความอับชื้นจนทำให้การทำความสะอาดกินเวลานาน ดังนั้น การออกแบบห้องน้ำให้ทำความสะอาดได้ง่ายก็เป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนแรงและเวลาลงไปได้มาก หนึ่งในวิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุดคือการแยกโซนเปียกและโซนแห้ง เพราะโซนที่เปียกมักจะเป็นโซนที่สกปรกได้ง่าย หากเราสามารถจำกัดพื้นที่ที่เปียกให้น้อยลง การทำความสะอาดก็ย่อมเร็วขึ้นด้วยนั้นเอง
การปล่อยปะละเลยคือสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านไม่เป็นระเบียบ กว่าจะรู้ตัวอีกทีบ้านก็รกซะจนรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะทำ ฉะนั้น อย่าสะสมความรก ความสกปรกเอาไว้ แค่ค่อยๆทำไปวันละนิดละน้อยอย่างมีวินัย แค่นี้บ้านของคุณก็จะสะอาดสะอ้านเสมอแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาขนาดไหนก็ตาม