ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี ต้องมี 4 สัตว์จตุรเทพ

          ชาวจีนในสมัยโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์เทพ 4 ตน คือ มังกรเขียว หงส์แดง พยัคฆ์ขาว และเต่าดำ ว่ากันว่าคตินี้ได้นำเอาแนวคิดหยินหยางของเต๋ามาแบ่งท้องฟ้าออกเป็นสี่ส่วน แล้วกำหนดสัตว์เทพขึ้นมาเป็นตัวแทนของกลุ่มดาวประจำทิศ ธาตุและฤดูกาลทั้งสี่ ต่อมา สัตว์ทั้ง 4 ทิศก็ได้รับการยอมรับจนเปรียบเสมือนเป็นสัตว์เทพศักดิ์สิทธิ์ และได้ปรากฏในศาสตร์ต่าง ๆ ของชาวจีนหลากหลายแขนง เช่น ดาราศาสตร์ หรือแม้แต่การทหาร ดังที่ได้ปรากฏในตำราพิชัยสงครามที่ว่า “ซ้ายเป็นมังกรเขียว ขวาเป็นพยัคฆ์ขาว ทัพหน้าคือหงส์แดง และเต่าดำคุมหลัง บัญชาการจากเบื้องบน นำปฏิบัติสู่เบื้องล่าง”

ทำไมฮวงจุ้ยบ้านที่ดี ต้องมี 4 สัตว์จตุรเทพ?

          ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าสัตว์เทพทั้ง 4 ได้ปรากฏในศาสตร์ต่างๆของจีนมากมาย และนั้นก็รวมถึง โหราศาสตร์ด้วย ตั้งแต่อดีตเราจะเห็นได้ว่าสัตว์เทพทั้ง 4 มักจะมีอิทธิพลต่อการคำนวนทางโหราศาสตร์และฮวงจุ้ยของบ้านเมืองอยู่บ่อยครั้ง เพราะตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนมีพลังงานแฝงอยู่ รวมถึงน่านฟ้าทั้งสี่ทิศที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของสัตว์เทพ ชาวจีนถือว่าสัตว์ทั้งสี่ชนิดนี้เป็นสัตว์มงคลระดับเทพเจ้าที่ครอบครองดวงดาวทิศละ 7 ดวง ที่สามารถส่งผลต่อดวงชะตาของมนุษย์ได้ หากสามารถจัดฮวงจุ้ยให้ได้รับพลังงานนั้นโดยตรง ก็จะช่วยส่งเสริมโชคลาภบารมีภายในบ้านได้เช่นเดียวกัน

          ความเชื่อเรื่อง 4 สัตว์เทพไม่ได้มีเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีเองต่างก็มีความเชื่อในเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดทางวัฒนธรรมของทั้งสามประเทศ สัตว์เทพแต่ละตัวเป็นตัวแทนของทิศ ธาตุ และฤดูกาลที่แตกต่างกันไป ดังนี

1.มังกรเขียว

           มังกรเขียว หรือ ชิงหลิง เป็นสัตว์เทพแห่งทิศตะวันออก ตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ สีประจำตัวคือ สีเขียวหรือสีฟ้า ธาตุไม้ แต่บางตำราก็กล่าวว่าเป็นธาตุลม เป็นสัญลักษณ์ของความดี ความสงบสุข ความมั่นคง เป็นตัวแทนของจักรพรรดิ

ตามหลักฮวงจุ้ย ตำแหน่งของมังกรเขียวควรมีลักษณะเป็นเนินอยู่ทางซ้ายมือของตัวบ้าน อาจจะใช้การปลูกต้นไม้พุ่มเตี้ยๆ หรือต้นไม้ขนาดกลางก็ได้ ควรสร้างทางเดินหรือประตูเข้าบ้านทางทิศนี้เพราะตำแหน่งมังกรเขียวจำเป็นต้องมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากขุดบ่อปลาก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดพลังงานมังกรไหลเวียน ส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยได้

2.หงส์แดง

           หงส์แดง หรือ จูเชว่ เป็นสัตว์เทพแห่งทิศใต้ ตัวแทนของฤดูร้อน สีประจำตัวคือ สีแดง ธาตุไฟ เป็นสัญลักษณ์ของความรอบรู้ สติปัญญาและโชคลาภ มักถูกจับคู่กับ มังกรเขียว ในลักษณะตัวแทนของผู้ให้และผู้รับที่ทำให้เกิดความสมดุล นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนของจักรพรรดินีอีกด้วย

ตำแหน่งของหงส์แดงควรจะอยู่หน้าบ้าน เป็นที่ราบที่มีความสมดุลกับขนาดของตัวบ้าน คือ หากเป็นบ้านที่ใหญ่ ตำแหน่งหงส์แดงก็ต้องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย และควรจะมีทางผ่านเป็นน้ำหรือถนน

3. พยัคฆ์ขาว

           พยัคฆ์ขาว หรือ ไป่หู เป็นสัตว์เทพประจำทิศตะวันตก ตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วง ธาตุทอง บางความเชื่อก็ว่าอยู่ในธาตุลม เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง คุ้มครอง ขับไล่ปีศาจ ได้รับความเคารพยำเกรงเพราะพยัคฆ์ขาวได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งขุนเขานั้นเอง

ตามหลักฮวงจุ้ย ตำแหน่งของพยัคฆ์ขาวควรจะอยู่ทางขวามือของบ้าน ควรมีเนินสูงหรือต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา แต่ไม่ควรตั้งตู้ปลาหรือแอ่งน้ำไหลบริเวณนี้ เพราะพยัคฆ์ขาวเป็นพลังงานแห่งความสงบนิ่ง จึงไม่ควรมีพลังงานที่เคลื่อนไหวมากเกินไป

4.เต่าดำ

          เต่าดำ หรือ เสวียนอู่ สัตว์เทพแห่งทิศเหนือ ตัวแทนของฤดูหนาว ธาตุน้ำ บางความเชื่อก็ว่าอยู่ในธาตุดิน สัญลักษณ์ของความศรัทธา อายุยืนยาว และมีความสุข

          ตำแหน่งของเต่าดำจะอยู่ด้านหลังของบ้าน เป็นตำแหน่งที่ควรให้ความใส่ใจอย่างมาก เพราะหากปล่อยปะละเลยไม่เป็นระเบียบ จะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยขาดบารมี เจ็บป่วยง่าย ควรปลูกต้นไม้ให้เขียวชอุ่มเพื่อช่วยเสริมพลังงานด้านนี้

          นอกจากสัตว์เทพทั้ง 4 บางความเชื่อก็มีสัตว์เทพตัวที่ 5 สถิตอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของสัตว์เทพจตุรทิศ นั่นก็คือ มังกรทอง หรือ หวงหลง ที่เป็นเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของสวรรค์และจักรวาลทั้งหมดอีกด้วย

          จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ทำเลการตั้งที่อยู่อาศัยตามหลักฮวงจุ้ยจะถูกแทนด้วยสัตว์เทพทั้ง 4 บางสำนักกล่าวเอาไว้ว่า พยัคฆ์ขาวอยู่ด้านขวาต้องสงบนิ่งเสมอ มังกรเขียวอยู่ซ้ายต้องเคลื่อนไหว เต่าดำที่อยู่ด้านหลังเปรียบดั่งที่มั่นที่พักพิง หงส์แดงเป็นตัวแทนของสายน้ำที่ไหลเอื่อยด้านหน้า หากมองกันตามหลักจิตวิทยาจะเห็นว่าสัตว์เทพทั้ง 4 เป็นตัวแทนของความสมดุลอย่างชัดเจน เพราะถ้าทั้งด้านซ้ายและด้านขวาต่างเคลื่อนไหวสับสนวุ่นวายตลอด อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ได้พักผ่อนและตกอยู่ในสภาวะเครียด แต่ถ้าบริเวณนั้นนิ่งสงันทั้งสองด้าน ก็คงจะให้ความรู้สึกหดหู่และเฉื่อยชา ดังนั้น การที่ข้างหนึ่งเคลื่อนไหว อีกข้างหนึ่งสงบนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่สมดุลและทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายใจได้นั้นเอง