อิฐมอญ(Brick)
อิฐมอญ เป็นอิฐที่มีสีส้มแดง หรือที่เราเรียกกันว่า สีส้มอิฐ พบได้ตามงานสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เช่น วัด หรือโบราณสถาน อิฐมอญเป็นอิฐที่ผลิตขึ้นได้เองในประเทศไทย โดยการนำดินเหนียวผสมแกรบ เผาด้วยอุณหภูมิสูง มีความคงทนในการใช้งาน ทนความชื้น ตัวอิฐจะมีขนาดความกว้างประมาณ 6-6.5 ซม. ยาว 14-16 ซม. หนา 2.5-3 ซม. เหมาะกับการก่อสร้างอาคารหรือบ้าน 1-2 ชั้น แต่ไม่เหมาะกับอาคารสูงๆเพราะมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักและการกักเก็บความร้อน นับว่าเป็นอิฐที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เพราะทนร้อนทนฝนได้และมีราคาค่อนข้างถูก
ในปัจจุบันอิฐมอญถูกนำไปใช้ในการออกแบบสมัยใหม่ที่จะเน้นให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติ โดยจะเป็นการตกแต่งแบบโชว์ให้เห็นเนื้ออิฐสีส้มแดงโดยไม่มีการปกปิด ซึ่งเป็นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์อีกแบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยม
ข้อดีของอิฐมอญ
- ทนแดด ทนฝนได้ดี จึงเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยมาก
- มีความแข็งแรงและหนาแน่นสูง
- หาซื้อได้ง่าย ผู้รับเหมาทั่วไปค่อนข้างมีความชำนาญ
- สามารถเจาะเพื่อแขวนสิ่งของได้ง่าย รับน้ำหนักได้ดี
- เหมาะกับการตกแต่งแบบเน้นโชว์เนื้ออิฐสไตล์ Loft
- มีหลายลายให้เลือก
ข้อเสียของอิฐมอญ
- มีน้ำหนักมากกว่าอิฐชนิดอื่น
- มีการสะสมความร้อนค่อนข้างมาก ทำให้บ้านร้อน จึงต้องมีการก่ออิฐมอญแบบ 2 ชั้นเพื่อทำให้บ้านเย็นขึ้น
- ใช้เวลาก่อสร้างนานเนื่องจากมีขนาดเล็ก ทำให้ค่าแรงสูง
- เสี่ยงต่อการแตกหักระหว่างขนส่งได้ง่าย
อิฐมวลเบา (Lightweight Concrete)
อิฐมวลเบามีส่วนผสมคือปูนซีเมนต์ทราย ปูนขาว ยิปซัมและผงอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญเพราะภายในเนื้อวัสดุจะมีฟองอากาศเป็นรูพรุนที่มากถึง 75% ซึ่งรูพรุนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้เป็นอย่างดี มีราคาแพงกว่าอิฐมอญ แต่เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า จึงทำให้จำนวนอิฐที่ใช้ต่อตารางเมตรมีปริมาณน้อยกว่าด้วย เหมาะกับการก่อสร้างบ้านในโครงการ หรืออาคารสูงๆ เก็บเสียงได้ค่อนข้างดี มีสีขาวไปถึงเทาอ่อน ความกว้างประมาณ 20 ซม. ยาว 60 ซม.
ข้อดีของอิฐมวลเบา
- น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับอิฐชนิดอื่น
- ระบายความร้อนได้ดี ช่วยให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน
- เก็บเสียงได้ดี เพราะวัสดุของอิฐมวลเบาช่วยสะท้อนเสียง
- ค่าก่อสร้างถูก เพราะอิฐมวลเบามีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบเป็นตารางเมตรแล้วจึงทำให้ใช้เวลาน้อย งานจบไว
- ตัวอิฐมีขนาดมาตรฐาน ทำให้เวลาฉาบปูนเก็บงานได้เนียบกว่า
- สามารถทนไฟได้นานถึง 4 ชม.
ข้อเสียของอิฐมวลเบา
- ราคาสูงกว่าอิฐมอญ
- การเจาะผนังทำได้ค่อนข้างยาก เสี่ยงต่อการแตกร้าวมากกว่าอิฐมอญ
- ไม่ทนความชื้น จึงไม่เหมาะกับการก่อสร้างในห้องน้ำหรือห้องครัว
- จำเป็นต้องใช้ปูนหรืออุปกรณ์สำหรับอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังต้องใช้ช่างผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางซึ่งหาไม่ได้ทั่วไป
อิฐชนิดไหนดีกว่ากัน?
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าอิฐทั้งสองชนิดต่างก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้การใช้งานอิฐทั้งสองปนะเภทควรจะเลือกใช้ตามความเหมาะสมโดยใช้ปัจจัยอื่นๆมาพิจารณาร่วม โดยอิฐมอญ ควรเลือกใช้ในบริเวณที่โดนความชื้นบ่อย เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือผนังที่โดนฝนโดยตรง หรือใช้ในตำแหน่งที่ต้องรองรับน้ำหนักมากๆ เช่น อ่างล้างหน้า ส่วนอิฐมวลเบาจะใช้ร่วมกับการทำผนังภายใน ผนังห้องนอน หรืออื่นๆ หากจะใช้ทำผนังภายนอกก็เลือกใช้ในบริเวณที่ไม่โดนฝนโดยตรง
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว ความต้องการก็เจ้าของบ้านก็สำคัญ เช่น หากคุณต้องการโชว์เนื้ออิฐแบบสวยๆ ดูเป็นธรรมชาติ อิฐมอญก็น่าจะเหมาะกับสไตล์นั้น แต่หากคุณต้องการบ้านที่เย็น ประหยัดพลังงาน อิฐมวลเบาก็น่าจะตอบโจทย์กว่า ทั้งนี้ก็อยู่ที่งบประมาณและคุณภาพของอิฐอีกทีหนึ่ง