1. ซื้อบ้านมือสองจากที่ไหน
- ซื้อกับเจ้าของโดยตรง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะมีการติดต่อได้ง่าย และเรายังสามารถต่อรองราคาได้แบบตัวต่อตัว ทั้งนี้ ควรตรวจสอบเอกสาร รวมถึงประวัติบ้านให้ดี และควรตกลงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โอนกรรมสิทธิ์ หรือจดจำนองที่ดิน ต่างๆให้เรียบร้อย
- ซื้อผ่านนายหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมในการซื้อบ้านมือสอง วิธีนี้ผู้ซื้อจะสามารถระบุลักษณะบ้าน ทำเล และราคาที่ต้องการได้ เนื่องจากนายหน้ามักจะมีข้อมูลบ้านโดยละเอียดอยู่ในมือ จึงมีโอกาสได้บ้านที่ถูกใจสูง โดยค่าใช้จ่ายของนายหน้าผู้ขายจะเป็นผู้จ่ายให้เอง ทั้งนี้ ควรตรวจสอบดูชื่อโฉนดให้ดีว่าเป็นคนเดียวกับผู้ขายหรือไม่ เพื่อป้องกันการแอบอ้างขายบ้านของผู้อื่นกับลูกค้านั้นเอง
- ซื้อผ่านธนาคาร หรือที่เรียกว่าสินทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน หรือบ้านที่หลุดจำนอง จะเป็นบ้านที่ยึดมาจากลูกหนี้เดิมที่ผิดนัดชำระ ทำให้ราคาบ้านต่ำกว่าตลาดและหาซื้อได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถทำเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคารได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งอาจได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆอีกด้วย
- ประมูลจากกรมบังคับคดี เป็นการซื้อบ้านที่อยู่ในระหว่างการฟ้องร้องทางคดี วิธีนี้เป็นการซื้อบ้านที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนมากมายยอมที่จะรอประมูล เพราะราคาของบ้านจะถูกกว่าท้องตลาดเกือบครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ ควรตรวจสอบให้ดีว่ามีคดีค้างคาถึงไหนแล้ว และควรรู้ที่มาที่ไปให้ชัดเจน
2. อย่าพึ่งตัดสินใจจนกว่าจะได้เห็นสภาพบ้านจริงๆ
การเลือกซื้อบ้านมือสองจำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบมากกว่าการเลือกซื้อบ้านมือหนึ่ง เพราะ บ้านมือสองคือบ้านที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จึงทำให้มีโอกาศที่ตัวบ้านจะเสื่อมสภาพลง ก่อนการตัดสินใจซื้อบ้านจึงเข้าไปดูสภาพบ้าน สภาพแวดล้อมจริงๆเพื่อประเมินหลายสิ่งร่วมกัน ดังนี้
-ทำเล ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือมือสอง เรื่องทำเลเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อเพื่อลงทุน ทำเลย่อมมีผลต่อความเป็นอยู่หลังจากนั้นทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นควรเลือกทำเลแถวบ้านให้ดี เช่น อยู่ใกล้ตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียนหรือไม่ สามารถเดินทางได้สะดวกสบายหรือเปล่า เป็นต้น
-สภาพบ้าน สังเกตความแข็งแรงของโครงสร้างบ้าน เนื่องจากบ้านบางหลังอาจมีการต่อเติมจนกระทบกับส่วนโครงสร้างของอาคารจนเกิดปัญหา เช่น บ้านทรุด ในภายหลังได้ นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำปะปา หรือไฟฟ้าให้ดี เพราะหากพบปัญหาภายหลังจากซื้อไปแล้ว คุณอาจจะต้องเสียค่ารีโนเวทเพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่คุ้มกับกับการซื้อบ้านหลังนี้เลยก็ได้
-สภาพแวดล้อม พิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบตั้งแต่พื้น ว่าอยู่บริเวณพื้นที่ที่น้ำท่วมถึงหรือไม่ ไปจนถึงผู้คน โดยการสังเกตผู้คนที่อาศัยอยู่แถวนั้น หรืออาจใช้การถามก็ได้ ดูลักษณะชุมชนว่ามีอันตรายหรือไม่ มีอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง เป็นต้น
3. ตกลงราคาและทำสัญญาซื้อขาย
การซื้อขายบ้านไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง การตกลงราคาและทำสัญญาซื้อขายย่อมเป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยต้องมีการระบุในสัญญาทั้งเรื่องราคา การจ่ายเงินมัดจำ การชำระเงินในแต่ละงวด การหักภาษี ณ ที่จ่าย และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ โดยควรมีการระบุเงื่อนไขต่างๆให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อผู้ขายในภายหลัง โดยทำเป็นลายลักษณ์อักษรระบุไว้ในหนังสือสัญญาซื้อขาย เมื่อตกลงและทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะต้องนำสัญญานี้พร้อมสำเนาโฉนดที่ดินไปใช้เป็นเอกสารในการยื่นกู้ต่อไป
การซื้อบ้านมือสองจำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างๆมากกว่าบ้านมือหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมสำรวจราคาขายในทำเลเดียวกันด้วย เพื่อจะได้บ้านมือสองที่ราคาที่ไม่สูงจนผิดปกติ นอกจากนี้ควรเตรียมเงินสำรองเผื่อเอาไว้ เพื่อจ่ายเป็นเงินค่าดาวน์บ้านให้กับผู้ขาย เท่านี้คุณก็สามารถเลือกบ้านมือสองที่เหมาะสมทั้งคุณภาพและราคาแน่นอน