1.สีผนังลอก
อีกหนึ่งปัญหาโลกที่สร้างความกลุ้มใจให้กับเจ้าของบ้านไม่น้อยคือ ก็คือปัญหาสีบ้านลอกกล่อน ซึ่งนอกจากทำให้บ้านดูหมองไม่สวยงามแล้ว อาจจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ที่ยากเกินแก้ไขในอนาคต โดยสาเหตุหลักที่สีบ้านลอกล่อนมีหลายสาเหตุ เช่น ความเสื่อมโทรมตามอายุไขของผนังบ้านเนื่องจากสร้างมานาน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือการเลือกใช้วัสดุที่ไม่คุณภาพจากช่างทาสีที่ไม่ชำนาญ เป็นต้น ซึ่งผนังที่มักจะเกิดปัญหาสีลอกบ่อยๆมักจะเป็นผนังบริเวณนอกบ้าน เนื่องจากเป็นจุดที่ต้องโดยลมโดนฝนโดยตรง นอกจากนี้ ในจุดที่อยู่ใกล้กับสวนที่มีความชื้นสูงก็เป็นอีกจุดที่มักจะเกิดปัญหา เพราะความชื้นที่ซึมไปตามผนังบ้านจนเข้าสู่พื้นที่ดานในมักจะทำให้เกิดปัญหาฟิล์มสีโป่งตัวและหลุดล่อนออกมาจากผนังบ้าน หากเกิดปัญหานี้คุณสามารถแก้ไขได้โดยการกำจัดสีที่หลุดล่อนบนผนังออกให้หมด แล้วใช้สีที่มีคุณสมบัติกันความชื้นได้ดีและทนทานต่อทุกสภาพอากาศทาทับ แนะนำให้ทาสีใหม่ทุกๆ 2-3 ปี
2.น้ำซึมผนัง
ปัญหาน้ำซึมผนังบ้านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในหน้าฝนหรือช่วงที่มีฝนตก ที่มักจะมีน้ำซึมเข้ามาจนกลายเป็นคราบอยู่บ่อยครั้ง ปัญหานี้นอกจากจะสร้างความรำคาญอาจมาจากสภาพผนังที่ไม่น่ามองแล้ว ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาอื่นๆด้วย เช่น การเกิดเชื้รา ฟิล์มสีลอกล่อนโป่งพแง ไปจนถึงโครงสร้างอาคารที่เสียหายเพราะเป็นสนิม ปัญหาน้ำซึมผนังเกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือสาเหตุที่มาจากรอยแตกร้าวของปูนฉาบ เนื่องจากการใช้ปูนฉาบที่ไม่มีคุณภาพ ช่างไม่ชำนาญ หรืออาจเกิดจากการเจาะผนังเพื่อติดตั้งโครงวร้างต่างๆ เช่น กันสาด หรือระแนง เป็นต้น ส่วนใหญ่รอยแตกร้าวเหล่านี้จะสังเกตเห็นไม่ยาก เพราะมักจะอยู่ใกล้บริเวณแนวคานหรือบริเวณที่มีการเจาะยึด
อีกสาเหตุอันนำมาซึ่งปัญหาน้ำซึมผนังคือช่องว่างระกว่างวงกบประตูหรือหน้าต่างกับผนัง ปัญหานี้มักจะเกิดจากยาแนวเดิมเสื่อมสภาพ หรือการตัดเฟรมอะลูมิเนียมที่เข้ามุม ทำให้การติดตั้งไม่สนิทดี หากเป็นวงกบไม้ก็อาจเกิดจากสภาพอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงทำให้วงกบยืดหดตัวจนเกิดช่องว่างขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้รอยแตกขยายจนบานประตูหนาต่างตกร่องจนปิดไม่สนิทได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตให้ดีว่าน้ำซึมผนังมาจากสาเหตุใด และแก้ไขสาเหตุนั้นให้ตรงจุด แค่นี้ก็จสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้วนั้นเอง
3.เชื้อราบนผนัง
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเชื้อราปบนผนังคือความชื้น ไม่ว่าจะเป็นความชื้นที่มาจากน้ำฝน การรั่วซึมของท่อน้ำที่ฝังอยู่ใต้ผนัง รวมถึงจากห้องน้ำบริเวณที่มีการติดตั้งอ่างอาบน้ำ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อราจนกลายเป็นคราบสีดำที่ดูไม่สวยงาม นอกจากจะทำให้เกิดภาพไม่น่ามองแล้ว เชื้อรายังส่งผลเสียต่อสุขอนามัยของคนในบ้าน เพราะเข้ามาสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และส่งผลเสียอย่างร้ายแรงถึงชีวิตต่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือภูมิแพ้ได้ ทั้งนี้ เราสามารถกำจัดเชื้อราง่ายๆโดยการหาแปรงสีฟันแบบไม่ชุบน้ำมาขัดเชื้อราบนผนังออกให้หมด ตามด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฟอกขาวฉีดพ่นบริเวณที่เกิดเชื้อรา แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาด อาจใช้น้ำยากันเชื้อราทาซ้ำเพื่อความแน่ใจ แค่นี้คุณก็สามารถจัดการกับคราบเชื้อราดำๆที่ติดผนังได้แล้ว
ปัญหาผนังที่กล่าวมาข้างต้น อาจดูเป็นปัญหาที่เล็กน้อย แต่ก็ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด คุณจึงควรสังเกตและเช็คสภาพผนังบ้านของคุณบ่อย ๆ เพื่อจะได้หาทางรับมือและซ่อมแซมแก้ไขได้ทันก่อนที่ปัญหาเล็ก ๆเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้แบบไม่รู้ตัว