เป็นที่ทราบกันดีว่าต้นไม้มีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้คุณภาพของอากาศดีขึ้น งานวิจัยมากมายกล่าวว่าสีเขียวของต้นไม้สามารถสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และฟอกอากาศให้สดชื่นขึ้นได้ แต่ในพื้นที่เล็กๆอย่างคอนโดหรืออาคารสูง การปลูกต้นไม้สักต้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และเพื่อเป็นการตอบโจทย์การสร้างพื้นที่สีเขียวในพื้นที่จำกัด สวนแนวตั้งจึงถูกคิดค้นขึ้นและกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกต้นไม้เพื่อกรองแสงแดดแต่ไม่มีพื้นที่เพียงพอ
สวนแนวตั้ง หรือ Vertical Garden คือการจัดสวนที่มีการตกแต่งสถานที่ด้วยต้นไม้ในแนวดิ่ง คิดค้นขึ้นโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Patrick Blanc จากแนวคิดง่ายๆว่า “อยากนำธรรมชาติกลับมาสู่เมือง” หลังจากการลองผิดลองถูกนับไม่ถ้วน ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จในปี 1988 และไอเดียของเขาก็ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในเวลาต่อมา
การทำสวนแนวตั้งเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความร้อนของผนังลงได้ เพราะสวนแนวตั้งที่ถูกติดไว้จะเป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนผ่านเข้ามาจากภายนอก ซึ่งจะช่วยป้องกันแสงแดดที่จะเข้าสู่อาคารได้ดีกว่าการติดม่านภายใน นอกจากนั้น ยังทำให้บ้านดูสดชื่น สวยงาม ช่วยกรองฝุ่นควันและลดเสียงรบกวนได้อีกด้วย โดยทั่วไปการจัดสวนแนวตั้ง จะมีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบแผง (Panel System) และระบบกระถาง (Pot System) ซึ่งในแต่ละระบบจะมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ใช้จัดสวน แต่ไม่ว่าจะใช้ระบบไหน ขั้นตอนในการทำสวนแนวตั้งโดยพื้นฐานจะมีดังนี้
1. เลือกทำเล
ส่วนใหญ่การเลือกทำเลทำสวนแนวตั้งมักจะเลือกจัดตรงผนังที่มีคราบหรือกำแพงว่างๆที่ดูเก่าเพื่อจะใช้การแต่งสวนเข้าไปช่วยทำให้พื้นที่ตรงนั้นดูสวยงามขึ้น แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้ว แสงแดดก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยดูว่าพรรณไม้ที่เราจะปลูกต้องการแสงแดดมากน้อยขนาดไหนและเลือกทำเลให้เหมาะสมกับพรรณไม้ชนิดนั้นมากที่สุด
2. เพิ่มโครงสร้าง
สร้างกรอบสำหรับทำสวนโดยใช้ท่อพีวีซี พลาสติก และผ้า ควรประกอบโครงให้เสร็จก่อนที่จะนำไปจัดเพื่อความสะดวก จากนั้นติดแผ่นพลาสติกลงไปในโครงเพื่อกันความชื้น และต่อด้วยติดผืนผ้าลงไปเพื่อทำหน้าที่ดูดซับน้ำให้กับต้นไม้ สามารถใช้กรอบไม้เป็นพื้นหลังเพื่อเพิ่มการระบายอากาศให้ดียิ่งขึ้น
3.ติดตั้งระบบไหลเวียนน้ำ
การจัดสวนแนวตั้งจำเป็นต้องมีระบบไหลเวียนน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื่นกับต้นไม้ตลอดเวลา โดยอาจใช้ระบบไฮโดรโพนิกส์ (Hydroponics) ซึ่งเป็นระบบการให้น้ำและสารอาหารอัตโนมัติ หรือหากต้องการลดต้นทุนก็อาจใช้ระบบน้ำหยดที่สามารถทำได้ตัวตัวเอง
4.นำต้นไม้ลงปลูก
แม้สวนแนวตั้งจะสามารถปลูกพรรณไม้ได้หลากหลายชนิด แต่ก็ควรเลือกพรรณไม้ที่สามารถรับแดดและลมได้ดี มีความเหมาะสมทั้งเรื่องน้ำ อุณหภูมิ และความชื้น ทั้งนี้เพื่อให้ต้นไม้เหล่านั้นสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสมนั้นเอง
5.จัดสวนให้สวยงาม
ออกแบบสวนตามที่ต้องการ เลือกพืชที่ชอบแดดจัดและมีลำต้นที่ยื่นออกมาจนเกิดเงาเอาไว้ด้านบนเพื่อให้ร่มเงาทอดลงมาด้านล่าง ส่วนด้านล่างควรเลือกต้นไม้ที่อยู่ได้ในแดดรำไร เช่น ต้นไม้ตระกูลเฟิร์น อาจปลูกพวกไม้ดอกแซมตามจุดต่างๆเพื่อเพิ่มสีสันให้กับสวนของคุณ
อย่างไรก็ตาม สวนแนวตั้งช่วยกักเก็บคาร์บอนได้ไม่มากนัก ผลการวิจัยพบว่าสวนแนวตั้งกักเก็บคาร์บอนได้เพียงร้อยละ 10 – 15 ผู้วิจัยจึงแนะนำให้เติมปุ๋ยอินทรีย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีและเก็บคาร์บอนได้มากขึ้น นอกจากนั้น สวนแนวตั้งสามารถสร้างความเสียหายแก่ผนังอาคารได้หากผนังอาคารมีรอยร้าวอยู่แล้ว ดังนั้นก่อนการจัดสวน ควรตรวจสอบความพร้อมของผนังและซ่อมแซมรอยร้าวให้เรียบร้อยเสียก่อน
สวนแนวตั้งไม่ได้เป็นเพียงสวนหย่อมที่ถูกจัดขึ้นเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นการดึงเอาระบบนิเวศน์มาไว้กับผนังอาคารได้อย่างกลมกลืนภายใต้ข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ในเมืองใหญ่ เช่นกรุงเทพมหานคร ผนังที่มีการตกแต่งสวนแนวตั้งจะสามารถป้องกัน “แดดประเทศไทย” ได้โดยตรง ซึ่งนั้นช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารที่พักอาศัยให้เย็นลงได้ นอกจากนั้นยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกสนานไม่น่าเบื่ออีกด้วย